
เรื่อง “งาน” บางครั้งคุณอาจจะกังวล กลัวงานออกมาไม่ดี กลัวหัวหน้าตำหนิ กลัวลูกค้าไม่ปลื้ม จนกลายเป็นความกดดันทั้งต่อตัวเองและเพื่อนร่วมงาน หรือบางครั้งคุณคิดว่างานโอเคแล้ว แต่กลับโดนแก้แล้วแก้อีก ติแล้วติอีก จนทำให้รู้สึกท้อถอยหมดกำลังใจ
ส่วนเรื่อง “คน” ถ้าคุณโชคร้ายไปเจอเจ้านายขี้เหวี่ยง ลูกค้าขี้วีน เพื่อนร่วมงานที่จ้องจะเอาเปรียบ เล่นพรรคเล่นพวก แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ ก็จะทำให้เหนื่อยทั้งกายทั้งใจ ไม่มีความสุข หมดแรงในการต่อสู้ รู้สึกสิ้นหวัง ถ้าเจอเหตุการณ์แย่ ๆ ซ้ำ ๆ คุณอาจจะฟิวส์ขาดน็อตหลุดไปเลยก็เป็นได้
ยามใดที่คุณต้องเผชิญปัญหาและอุปสรรคพัดกระหน่ำถาโถมเข้ามาพร้อม ๆ กันจนถึงขีดสุด ถ้าคุณขาด “สติ” ตั้งรับไม่ทันทุกอย่างอาจจะพังไปในพริบตา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระบรมราโชวาทเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันพฤหัสบดี ที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๒๐
จากพระบรมราโชวาทด้านบนนี้ พ่อหลวงของเราทรงชี้ให้เห็นว่าเวลาจะพูด จะคิด และจะกระทำสิ่งใด เราทุกคนต้องระลึกเตือนตัวเองไว้เสมอว่าให้มี "สติ" นึกถึงความผิดชอบชั่วดีและผลที่จะตามมา ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเจอปัญหาในการทำงาน ทำให้คุณไม่พอใจ หงุดหงิดใจ เสียใจ หรือของขึ้นโมโหจนฟิวส์ขาด เสี้ยววินาทีนั้นถ้าคุณไม่มี “สติ” เพื่อจะหยุดคิดสักครั้งก่อนที่จะกระทำการใด ๆ ตามที่พระองค์สอน คุณอาจจะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลเป็นตัวตั้งในการตัดสินใจ สุดท้ายกว่าจะรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป ผลของการกระทำโดยขาดสติไตร่ตรองก็จะกระทบกับทั้งตัวงานและตัวคุณเองให้ต้องมานั่งเสียใจภายหลังได้
และเมื่อใดที่คุณเจอปัญหาและอุปสรรคในการทำงานที่บั่นทอนให้คุณหมดแรงกายแรงใจ จนไม่อยากจะสู้ต่อ ขอยกธงขาวยอมแพ้ พ่อหลวงก็ทรงมีพระบรมราโชวาทไว้ว่า
“...ในการดำเนินชีวิตและการประกอบกิจการงาน ย่อมจะต้องมีปัญหาต่าง ๆ เป็นอุปสรรคขัดขวางความสำเร็จอยู่เสมอ ยากที่ผู้ใดหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดจะหลีกเลี่ยงพ้นได้ คนก็มีปัญหาของคน สังคมก็มีปัญหาของสังคม ประเทศก็มีปัญหาของประเทศ แม้กระทั่งโลกก็มีปัญหาของโลก ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตและกิจการงานจึงเป็นเรื่องธรรมดา ข้อสำคัญเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น จะต้องแก้ไขให้ลุล่วงไปโดยไม่ชักช้า ผู้ใดมีสติปัญญาคิดได้ดี ปฏิบัติได้ถูก ผู้นั้นก็มีหวังบรรลุถึงเป้าหมาย มีความสำเร็จสูง ถ้าเป็นตรงกันข้าม ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จสมหวังได้...”
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันพุธ ที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๓๙
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงสอนให้เราเห็นถึงสัจธรรมที่ว่า ทุกคนบนโลกใบนี้ย่อมมีปัญหาทั้งเรื่องส่วนตัวและหน้าที่การงานด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครหรือสังคมไหนหลีกหนีไปได้ แต่แทนที่คุณจะนั่งจมอยู่กับปัญหา ตีโพยตีพาย โทษโชคชะตา คุณควรเรียนรู้ที่จะยอมรับความจริงว่าปัญหาและอุปสรรคเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเข้ามาในชีวิตเมื่อไรก็ได้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องตั้ง “สติ” แล้วรีบ “แก้ไข” จนกว่าปัญหานั้น ๆ จะลุล่วง ถ้าใครทำตามคำสอนของพ่อหลวงได้ คุณจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งความจริงอย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จ
จะเห็นได้ว่าคำสอนของพ่อหลวงทุกคำล้วนแต่เป็นเรื่องที่จับต้องได้ ทรงชี้ให้เห็นเหตุและผล เป็นทั้งข้อคิดในการดำเนินชีวิตและกำลังใจให้พสกนิกรชาวไทยทุกคน หากตอนนี้ใครกำลังเจอปัญหาและอุปสรรคทั้งในหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัวแล้วล่ะก็ อย่าลืมน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระองค์ท่านไปเตือนสติและปฏิบัติตามกัน นอกจากจะทำให้คุณสามารถผ่านพ้นวิกฤตในชีวิตไปได้ด้วยดีแล้ว คำสอนของพ่อหลวงยังเป็นสิริมงคลยิ่งนัก
ที่มา krungsri.com